1.แหล่งมรดกโลกในทวีปเอเชีย
1."ตักศิลา"ประเทศปากีสถาน
ตักศิลา (อักษรโรมัน: Taxila; ตัก-กะ-สิ-ลา)
ปัจจุบันนี้ตักศิลาอยู่ในเขตประเทศปากีสถาน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงอิสลามาบาด คงเหลือแต่ซากเมืองให้ได้เห็น มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญคือ พิพิธภัณฑ์ตักศิลา ซึ่งได้เก็บรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับความเป็นอยู่และภูมิปัญญาของชาวตักศิลายุคต่าง ๆ เอาไว้อย่างเป็นระบบระเบียบ รวมถึง ซากสถูปเจดีย์ วัดวาอาราม และปฏิมากรรม แบบศิลปะคันธาระ จำนวนมาก อันเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของผู้คน
2."สีคิริยะ" ประเทศศรีลังกา
สีคิริยะ (สิงหล: සීගිරිය) หรือ หินราชสีห์ ป็นเมืองในอำเภอมาตเล จังหวัดกลาง ตอนกลางของประเทศศรีลังกา ประกอบด้วยหินปลักภูเขาไฟความสูงประมาณ 370 เมตร ป้อมปราการและปราสาทโบราณ รายล้อมด้วยสวนหย่อมและระบบชลประทาน ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของศรีลังกา โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนังโบราณ ได้รับการพิจารณาเป็นมรดกโลกหนึ่งในแปดแห่งของประเทศ
3."ทัชมาฮาล" ประเทศอินเดีย
ทัชมาฮาล (ภาษาฮินดี : ताजमहल)
ป้อมแดง (อังกฤษ: Red Fort, ฮินดี: रक्तदुर्गम्) คือป้อมปราการในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิโมกุล โดยสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน ซึ่งเป็นเมืองแห่งที่ 7 ที่ก่อตั้งภายในบริเวณเขตเดลี โดยพระองค์ทรงย้ายมาจากอัคราเพื่อที่จะสร้างความสวยงามและอลังการในรัชสมัยของพระองค์ โดยใช้โอกาสนี้ในการสร้างสรรค์สิ่งก่อสร้างและอาคารใหม่ๆได้ตามที่สนพระทัย ซึ่งเมืองหลวงแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ที่เดลีจนถึงปี ค.ศ. 1857 เมื่อจักรพรรดิบาฮาดูร์ชาห์ซาฟาร์ เสด็จลี้ภัยจากรัฐบาลของบริติชอินเดีย
5."อุทยานแห่งชาติจิตวัน" ประเทศบังกลาเทศ
ตั้งอยู่เชิงเทือกเขาหิมาลัย เป็นบริเวณที่มีร่องรอยอารยธรรมของพื้นที่ที่ราบลุ่มต่ำเทไร (Terai) ที่ยังไม่ถูกรบกวน สมัยก่อนพื้นที่ทอดยาวไปตามเชิงเขาของประเทศอินเดีย และประเทศเนปาล เป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยพืชและสัตว์ประจำถิ่น ในอุทยานเป็นที่อยู่ของแรดนอเดียวพันธุ์เอเชีย และเป็นหนึ่งในที่อยู่อาศัยแห่งสุดท้ายของเสือเบงกอล
6."ทะเลสาบไบคาล" ประเทศรัสเซีย
ทะเลสาบไบคาล (อักษรโรมัน: Lake Baikal, อักษรซีริลลิก: о́зеро Байка́л) ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของไซบีเรีย ประเทศรัสเซียเป็นทะเลสาบน้ำจืด ที่ลึกที่สุดในโลก จุดที่ลึกที่สุดมีความลึกกว่า 1,640 เมตร ทะเลสาบไบคาลเกิดจากการที่น้ำเอ่อล้นเข้ามาจนเต็มรอยเปลือกโลกที่แตกเมื่อ 25 ล้านปีที่แล้ว ทะเลสาบมีความยาวประมาณ 650 กิโลเมตร กว้างโดยเฉลี่ย 50 กิโลเมตร มีพื้นที่ 31,722 ตารางกิโลเมตร หรือ 19,826,250 ไร่ และมีปริมาตร 23,615 ลูกบาศก์กิโลเมตร
7."ศาลเจ้าอิตสึกุชิมะ" ประเทศญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น: 厳島神社 Itsukushima-jinja) เป็นศาลเจ้าลัทธิชินโตบนเกาะอิตสึกุชิมะ เมืองฮัตสึกาอิจิ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก และรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกฐานะอาคารต่าง ๆ ในศาลเจ้าให้เป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น
8."หุบเขากาฐมาณฑุ" ประเทศเนปาล คือแหล่งมรดกโลกของประเทศเนปาล โดยมรดกทางวัฒนธรรมของหุบเขากาฐมาณฑุแบ่งออกเป็น อนุสรณ์สถานและอาคารต่าง ๆ รวม ๗ กลุ่มด้วยกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างสูงทางประวัติศาสตร์และศิลปะ ที่ทำให้หุบเขากาฐมาณฑุมีชื่อเสียงในโลก
9.ถ้ำผาหลงเหมิน
10.ป้อมฮวาซ็อง ป้อมฮวาซอง(華城) (เกาหลี:수원 성; อังกฤษ: Hwaseong Fortress) ตั้งอยู่ที่เมืองซูว็อน ทางตอนใต้ของกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ สร้างขึ้นในช่วง ค.ศ. 1794 - 1796 โดยพระเจ้าจองโจ พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 22 แห่งราชอาณาจักรโชซ็อน เพื่อใช้เป็นที่ประทับและเป็นที่ฝังพระศพขององค์ชายรัชทายาทจังฮอน (องค์ชายซาโด) ที่ถูกพระอัยกาของพระองค์ (พระเจ้ายองโจ) ลงโทษ
สมาชิกในกลุ่ม
1.ด.ช.ปรัตถกร ประทุมสิทธิ์ เลขที่ 6
2.ด.ช.กันตภณ สูงเพีย เลขที่1
3.ด.ช.ธนภัทร ฐิตินันท์ถาวร เลขที่ 4
1."ตักศิลา"ประเทศปากีสถาน
ปัจจุบันนี้ตักศิลาอยู่ในเขตประเทศปากีสถาน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงอิสลามาบาด คงเหลือแต่ซากเมืองให้ได้เห็น มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญคือ พิพิธภัณฑ์ตักศิลา ซึ่งได้เก็บรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับความเป็นอยู่และภูมิปัญญาของชาวตักศิลายุคต่าง ๆ เอาไว้อย่างเป็นระบบระเบียบ รวมถึง ซากสถูปเจดีย์ วัดวาอาราม และปฏิมากรรม แบบศิลปะคันธาระ จำนวนมาก อันเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของผู้คน
2."สีคิริยะ" ประเทศศรีลังกา
สีคิริยะ (สิงหล: සීගිරිය) หรือ หินราชสีห์ ป็นเมืองในอำเภอมาตเล จังหวัดกลาง ตอนกลางของประเทศศรีลังกา ประกอบด้วยหินปลักภูเขาไฟความสูงประมาณ 370 เมตร ป้อมปราการและปราสาทโบราณ รายล้อมด้วยสวนหย่อมและระบบชลประทาน ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของศรีลังกา โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนังโบราณ ได้รับการพิจารณาเป็นมรดกโลกหนึ่งในแปดแห่งของประเทศ
3."ทัชมาฮาล" ประเทศอินเดีย
ทัชมาฮาล (ภาษาฮินดี : ताजमहल)
ทัชมาฮาล สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุล
ทัชมาฮาลถูกพิจารณาให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ ทัชมาฮาลตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอาครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของ...ทาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ
4."ป้อมแดง" ประเทศอินเดีย
ป้อมแดง (อังกฤษ: Red Fort, ฮินดี: रक्तदुर्गम्) คือป้อมปราการในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิโมกุล โดยสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน ซึ่งเป็นเมืองแห่งที่ 7 ที่ก่อตั้งภายในบริเวณเขตเดลี โดยพระองค์ทรงย้ายมาจากอัคราเพื่อที่จะสร้างความสวยงามและอลังการในรัชสมัยของพระองค์ โดยใช้โอกาสนี้ในการสร้างสรรค์สิ่งก่อสร้างและอาคารใหม่ๆได้ตามที่สนพระทัย ซึ่งเมืองหลวงแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ที่เดลีจนถึงปี ค.ศ. 1857 เมื่อจักรพรรดิบาฮาดูร์ชาห์ซาฟาร์ เสด็จลี้ภัยจากรัฐบาลของบริติชอินเดีย
5."อุทยานแห่งชาติจิตวัน" ประเทศบังกลาเทศ
ตั้งอยู่เชิงเทือกเขาหิมาลัย เป็นบริเวณที่มีร่องรอยอารยธรรมของพื้นที่ที่ราบลุ่มต่ำเทไร (Terai) ที่ยังไม่ถูกรบกวน สมัยก่อนพื้นที่ทอดยาวไปตามเชิงเขาของประเทศอินเดีย และประเทศเนปาล เป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยพืชและสัตว์ประจำถิ่น ในอุทยานเป็นที่อยู่ของแรดนอเดียวพันธุ์เอเชีย และเป็นหนึ่งในที่อยู่อาศัยแห่งสุดท้ายของเสือเบงกอล
6."ทะเลสาบไบคาล" ประเทศรัสเซีย
ทะเลสาบไบคาล (อักษรโรมัน: Lake Baikal, อักษรซีริลลิก: о́зеро Байка́л) ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของไซบีเรีย ประเทศรัสเซียเป็นทะเลสาบน้ำจืด ที่ลึกที่สุดในโลก จุดที่ลึกที่สุดมีความลึกกว่า 1,640 เมตร ทะเลสาบไบคาลเกิดจากการที่น้ำเอ่อล้นเข้ามาจนเต็มรอยเปลือกโลกที่แตกเมื่อ 25 ล้านปีที่แล้ว ทะเลสาบมีความยาวประมาณ 650 กิโลเมตร กว้างโดยเฉลี่ย 50 กิโลเมตร มีพื้นที่ 31,722 ตารางกิโลเมตร หรือ 19,826,250 ไร่ และมีปริมาตร 23,615 ลูกบาศก์กิโลเมตร
7."ศาลเจ้าอิตสึกุชิมะ" ประเทศญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น: 厳島神社 Itsukushima-jinja) เป็นศาลเจ้าลัทธิชินโตบนเกาะอิตสึกุชิมะ เมืองฮัตสึกาอิจิ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก และรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกฐานะอาคารต่าง ๆ ในศาลเจ้าให้เป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น
8."หุบเขากาฐมาณฑุ" ประเทศเนปาล คือแหล่งมรดกโลกของประเทศเนปาล โดยมรดกทางวัฒนธรรมของหุบเขากาฐมาณฑุแบ่งออกเป็น อนุสรณ์สถานและอาคารต่าง ๆ รวม ๗ กลุ่มด้วยกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างสูงทางประวัติศาสตร์และศิลปะ ที่ทำให้หุบเขากาฐมาณฑุมีชื่อเสียงในโลก
9.ถ้ำผาหลงเหมิน
ถ้ำผาหลงเหมิน (จีนตัวย่อ: 龙门石窟; จีนตัวเต็ม: 龍門石窟; พินอิน: lóngmén shíkū, หลงเหมินฉือคู) เป็นกลุ่มถ้ำบนหน้าผา ห่างออกไปทางใต้ 12 กิโลเมตรจากเมืองลั่วหยาง ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน อยู่ระหว่างภูเขาเซียงทางทิศตะวันออกกับภูเขาหลงเหมินทางทิศตะวันตก หันหน้าออกสู่ริมฝั่งแม่น้ำอี้ พื้นที่บริเวณกลุ่มถ้ำมีความยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร จัดว่าเป็น 1 ใน 3 แหล่งปฏิมากรรมโบราณที่ประกอบด้วยถ้ำมั่วเกา ถ้ำหลงเหมิน และถ้ำยฺหวินกัง ที่มีชื่อเสียงที่สุดในจีน
10.ป้อมฮวาซ็อง ป้อมฮวาซอง(華城) (เกาหลี:수원 성; อังกฤษ: Hwaseong Fortress) ตั้งอยู่ที่เมืองซูว็อน ทางตอนใต้ของกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ สร้างขึ้นในช่วง ค.ศ. 1794 - 1796 โดยพระเจ้าจองโจ พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 22 แห่งราชอาณาจักรโชซ็อน เพื่อใช้เป็นที่ประทับและเป็นที่ฝังพระศพขององค์ชายรัชทายาทจังฮอน (องค์ชายซาโด) ที่ถูกพระอัยกาของพระองค์ (พระเจ้ายองโจ) ลงโทษ
สมาชิกในกลุ่ม
1.ด.ช.ปรัตถกร ประทุมสิทธิ์ เลขที่ 6
2.ด.ช.กันตภณ สูงเพีย เลขที่1
3.ด.ช.ธนภัทร ฐิตินันท์ถาวร เลขที่ 4
Comments
Post a Comment